ผู้สูงอายุ คนแก่ คนสูงอายุ คนชรา ผู้ป่วยติดเตียง
  • ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
    • พาหาหมอ / รับยา
    • พาผู้สูงอายุเที่ยว
    • กายภาพบำบัดที่บ้าน
    • ประกันผู้สูงอายุ
    • วางแผนทางการเงินผู้สูงอายุ
  • ดูแลผู้ป่วย
  • ผู้สูงอายุ
  • บทความ
  • [PR News] ธอส.พร้อมรับสังคมผู้สูงอายุ
PR News

[PR News] ธอส.พร้อมรับสังคมผู้สูงอายุ

By Nicha Intern   28 พ.ค. 2567

[PR News] ธอส.พร้อมรับสังคมผู้สูงอายุ

พันธกิจของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) คือ การทำให้คนไทยมีบ้าน มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยอีกระดับหนึ่ง

    เพราะ “บ้าน” เป็นศูนย์รวมของสมาชิกทุกคนในครอบครัว มีความรัก ความอบอุ่น ความปลอดภัย ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขและมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และบ้านยังช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้ด้วย ปัจจุบัน สังคมไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มตัว การมี “บ้าน” เพื่อรองรับผู้สูงอายุ เป็นสิ่งจำเป็นมาก ดังนั้น เมื่อวันที่ 17-20 พ.ค.ที่ผ่านมา “ธอส.” ได้พาคณะสื่อมวลชนไปศึกษาดูงานการใช้ชีวิตและการออกแบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุ ณ เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นมีประชากรผู้สูงวัยมากที่สุดในโลก และคนสูงวัยในญี่ปุ่น ยังคงทำงาน โดยเฉพาะการบริการ
   โดยคนญี่ปุ่นจะเตรียมความพร้อมของตัวเอง ตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป เก็บออม เพื่อให้มีเงินไว้ใช้ยามเกษียณอายุ รวมถึงการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตในวัยสูงอายุ ขณะที่ “ธอส.” มีพันธกิจทำให้คนไทยมีบ้าน ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงวัย ธอส.พร้อมสนับสนุนการเข้าถึงสินเชื่อ จึงได้ออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับผู้สูงอายุ  4 โครงการ ภายใต้กรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำได้แก่
1.โครงการบ้าน ธอส. สร้างสุข เพื่อผู้สูงวัย ปี 2567 กรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท สำหรับผู้ที่ต้องการกู้เพื่อต่อเติม ขยาย หรือซ่อมแซมบ้านตามแบบบ้านผู้สูงอายุ และผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และกู้เพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการยื่นขอสินเชื่อหลายราย

2.โครงการสินเชื่อ Senior Home 4U ปี 2567 กรอบวงเงิน 2,000 ล้านบาท สำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ที่ต้องการกู้ซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม ไถ่ถอนจากสถาบันการเงินอื่น (รีไฟแนนซ์) ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย

3.โครงการสินเชื่อ Senior Home 2U ปี 2567 กรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท สำหรับผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจากผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป เป็นสัญญาแรก โดยไม่มีประวัติการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับ ธอส.และสถาบันการเงินอื่น

4.โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage : RM) กรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถนำที่อยู่อาศัยของตนเอง ที่ปลอดจำนองมาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ โดยไม่พิจารณารายได้ของผู้กู้ วงเงินให้กู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 10 ล้านบาท กรณีที่ดินพร้อมอาคาร ให้กู้ไม่เกิน 50% ของราคาประเมินที่ดิน และอาคาร กรณีห้องชุด ให้กู้ไม่เกิน 30% ของราคาประเมินห้องชุด
 

   นอกจากนี้ ธอส. ยังให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการ การเงิน การจัดทำบัญชีครัวเรือนให้กับผู้สูงอายุได้เรียนรู้เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านรายได้ในวัยเกษียณอายุ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ทั้งปูพื้นฐานทางการเงิน ให้คำแนะนำการใช้แอปพลิเคชัน “GHB ALL GEN” และ “GHB Buddy” ในไลน์ ตามโครงการ พื้นฐานทางเงินสำหรับผู้สูงอายุ

อีกทั้งยังมีการสอนอาชีพให้กับผู้สูงอายุ เพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์มีอาชีพที่เหมาะสมกับวัยและประสบการณ์ เพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพให้สามารถสร้างรายได้และลดรายจ่ายให้กับตนเอง ซึ่งจะทำให้ผู้สูงอายุสามารถพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น ส่งผลให้รัฐบาลสามารถลดค่าใช้จ่ายในอนาคตด้านสวัสดิการต่างๆได้อย่างยั่งยืน

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า เป้าหมายการทำงานของ ธอส.เพื่อให้คนไทยมีบ้านเป็นของตัวเอง และเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ง่าย คนที่มายื่นกู้กับ ธอส.แต่ไม่ผ่านหลักเกณฑ์ ธอส.จะมีโรงเรียนการเงิน ช่วยสอนเพื่อให้ผ่านหลักเกณฑ์ สามารถยื่นกู้สินเชื่อบ้านได้ และจะพยายามชักชวนผู้มีรายได้น้อย เปลี่ยนค่าเช่า เป็นค่าผ่อนบ้านแทน เพราะการมีบ้านเป็นของตัวเองนั้น ถือเป็นทรัพย์สิน เป็นหลักประกันที่มีมูลค่า และเป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ตามนโยบายรัฐบาล

ขณะเดียวกัน ธอส.จะพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ “GHB ALL GEN” อำนวยความสะดวกในการใช้บริการมากยิ่งขึ้น โดยจะนำแนวคิดและวิธีปฏิบัติของธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) มาปรับใช้ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุนผ่านระบบออนไลน์ ผ่านมือถือ เพราะการเข้าถึงแหล่งทุน จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำของสังคมได้

“ผมได้ไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบนโยบายพนักงานสาขาทั่วประเทศ ไปหาลูกค้าที่เป็นลูกจ้างประจำ หรือลูกจ้างสัญญาของหน่วยงานราชการต่างๆ ที่สนใจจะซื้อบ้านเป็นของตัวเอง ยื่นกู้แล้ว แต่ยังไม่ผ่าน เนื่องจากลูกค้ากลุ่มดังกล่าว ทำงานราชการ แต่ไม่ได้สิทธิราชการ ทำให้ไม่ผ่านเงื่อนไขหลักเกณฑ์การยื่นขอสินเชื่อ”

กลุ่มนี้ หากสนใจเจรจาเป็นกรณีๆ เช่น ยินยอมให้หักค่าผ่อนบ้าน ผ่านบัญชีเงินเดือนได้ เพราะบางคนเป็นลูกจ้างราชการมา 10 ปี เช่า คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ ขั้นต่ำค่าเช่าปัจจุบัน 5,000-6,000 บาท ลองเปลี่ยนจากค่าเช่าเป็นค่าผ่อนบ้านแล้วมีบ้านเป็นทรัพย์สินของตัวเอง จะทำให้ชีวิตมั่นคงมากขึ้น.

ขอบคุณข่าวจาก Thairath Money
 

บทความอื่นๆ

เมื่ออายุมากขึ้นต้องระวังการใช้ยามากขึ้น

PR News

06 มี.ค. 2568

อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยปรับตัวอย่างไร

PR News

13 ม.ค. 2568

ยอดผู้ป่วยรอปลูกถ่ายอวัยวะ สูงถึง 7 พันราย 'โรคไต' ครองแชมป์รออวัยวะสูงสุด

PR News

15 ส.ค. 2567

บทความยอดนิยม

1

"ไข้หวัดนก" กรมควบคุมโรคแจ้ง คนมาจากพื้นที่ระบาด หากป่วย รีบไปพบแพทย์

PR News

15 มิ.ย. 2567

2

เช็คด่วน! เงื่อนไข "หวยเกษียณ-สลากเกษียณ" ใบละ 50 บาท ลุ้นรางวัลใหญ่ 1 ล้านบาท!

PR News

06 มิ.ย. 2567

3

บอร์ดสปสช. ไฟเขียวท้องถิ่น จัดรถนำ “ผู้ทุพพลภาพ”ไปรพ. ฟรี

PR News

15 ส.ค. 2567

4

ยอดผู้ป่วยรอปลูกถ่ายอวัยวะ สูงถึง 7 พันราย 'โรคไต' ครองแชมป์รออวัยวะสูงสุด

PR News

15 ส.ค. 2567

5

เปิดเส้นทางรัฐ ไปยังไงต่อ 'เศรษฐา' พ้นนายก อวสานเงินดิจิทัล 10000 บาทหรือไม่

PR News

15 ส.ค. 2567

ข้อแนะนำการอ่านหนังสือสำหรับผู้สูงอายุ
การอ่านหนังสือเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์สำหรับผู้สูงอายุอย่างมาก ช่วยให้กระตุ้นสมอง เพิ่มความรู้ พัฒนาทักษะการสื่อสาร และผ่อนคลาย ดังนี้

การเลือกประเภทหนังสือ:
  • เลือกหนังสือที่ผู้สูงอายุสนใจ: เลือกหนังสือที่สอดคล้องกับความสนใจและประสบการณ์ของผู้สูงอายุ เช่น นิยาย หนังสือเกี่ยวกับสุขภาพ การท่องเที่ยว ฯลฯ
  • เลือกหนังสือที่เหมาะกับระดับการอ่าน: เลือกหนังสือที่มีตัวอักษรที่ชัดเจน ประโยคสั้นๆ และภาษาที่เข้าใจง่าย
  • เลือกหนังสือที่มีเนื้อหาเป็นประโยชน์: เลือกหนังสือที่มีเนื้อหาที่ช่วยให้ผู้สูงอายุเรียนรู้ พัฒนาทักษะ หรือผ่อนคลาย

การอ่านหนังสือ หรือ บทความมีประโยชน์มากมายต่อคนทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ดังนี้

1. กระตุ้นสมอง: การอ่านช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยให้สมองได้คิดและได้ทำงานตลอดเวลา การอ่านหนังสือสม่ำเสมอจะช่วยชะลอและป้องกันการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้
2. เพิ่มความรู้: การอ่านหนังสือช่วยให้เราได้รับความรู้จากเนื้อหาในหนังสือ แม้ว่าจะยังไม่ได้ใช้ในตอนนี้ แต่ก็ยังคงเป็นประโยชน์ในอนาคต
3. พัฒนาทักษะการสื่อสาร: การอ่านช่วยให้เราได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ และรูปแบบประโยคที่หลากหลาย ทำให้เราสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. ฝึกสมาธิ: การอ่านหนังสือช่วยให้เราจดจ่อกับเรื่องราวในหนังสือ ฝึกสมาธิและความตั้งใจ
5. ผ่อนคลาย: การอ่านหนังสือช่วยให้เราผ่อนคลาย ลดความเครียด และรู้สึกสงบ
6. เพิ่มความรู้รอบตัว: การอ่านหนังสือช่วยให้เรารู้เรื่องราวต่างๆ ทั่วไป สามารถพูดคุยกับผู้อื่นได้อย่างมั่นใจ
7. พัฒนาการคิดวิเคราะห์: การอ่านหนังสือช่วยให้เราฝึกคิดวิเคราะห์ เรียนรู้จากเรื่องราวในหนังสือ และนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตจริง
8. ฝึกจินตนาการ: การอ่านหนังสือช่วยให้เราฝึกจินตนาการ คิดภาพตามเรื่องราวในหนังสือ
9. ความบันเทิง: การอ่านหนังสือช่วยให้เราเพลิดเพลิน ผ่อนคลาย และสนุกกับการอ่าน
10. พัฒนาการอ่าน: การอ่านหนังสือช่วยให้ทักษะการอ่านของเราดีขึ้น เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น

การอ่านหนังสือเป็นกิจกรรมที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุทุกคน เพียงเลือกหนังสือที่เหมาะกับความสนใจและระดับการอ่าน ก็สามารถได้รับประโยชน์จากการอ่านอย่างเต็มที่

Popular Tags

blog/view.html บางขุนเทียน ห้วยขวาง ภาษีเจริญ พญาไท ธนบุรี บางกอกใหญ่ บางพลัด บางกอกน้อย คลองสาน

แนะนำ

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ใกล้ฉัน ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ กรุงเทพ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ นนทบุรี
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ปทุมธานี ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ สมุทรปราการ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ นครปฐม
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ สมุทรสาคร ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ภูเก็ต ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เชียงใหม่
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ โคราช ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ขอนแก่น ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เชียงราย
[PR News] ธอส.พร้อมรับสังคมผู้สูงอายุ

Copyright © ผู้สูงอายุ คนแก่ คนสูงอายุ คนชรา ผู้ป่วยติดเตียง

  • เกี่ยวกับเรา
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นโยบายคุกกี้
  • ร้องเรียนเนื้อหาไม่เหมาะสม

แนะนำแจ้งเตือน แจ้งปัญหาการใช้งาน

ร่วมงานกับเรา

Messenger Line โทรศัพท์ 081-901-4440