โรคงูสวัดในคนสูงอายุ: สาเหตุ วิธีป้องกัน และการรักษา
By Benz 31 Jul 2024

โรคงูสวัดในคนสูงอายุ: สาเหตุ วิธีป้องกัน และการรักษา
โรคงูสวัด (Shingles) หรือที่เรียกกันในภาษาแพทย์ว่า "Herpes Zoster" เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส varicella-zoster ซึ่งเป็นไวรัสตัวเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส (Chickenpox) ในวัยเด็ก เมื่อเราหายจากอีสุกอีใสแล้ว ไวรัสจะยังคงอยู่ในระบบประสาทของเราทั้งชีวิต แต่จะเข้าสู่สถานะที่ไม่แสดงอาการจนกว่าจะถูกกระตุ้นให้เกิดโรคใหม่ในภายหลัง
สาเหตุของโรคงูสวัด
โรคงูสวัดเกิดจากการที่ไวรัส varicella-zoster ที่หลับใหลในระบบประสาทถูกกระตุ้นให้เกิดการติดเชื้ออีกครั้ง ไวรัสจะทำให้เกิดการอักเสบในเส้นประสาทที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนำไปสู่การเกิดผื่น และอาการเจ็บปวดเฉพาะที่
ปัจจัยที่อาจกระตุ้นให้ไวรัสเกิดการติดเชื้อใหม่ ได้แก่:
- อายุ: คนสูงอายุมีความเสี่ยงสูงกว่าคนหนุ่มสาว เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอาจอ่อนแอลงตามอายุ
- ความเครียด: ความเครียดที่มากเกินไปอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
- โรคเรื้อรัง: เช่น เบาหวาน หรือมะเร็งที่อาจทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง
- การใช้ยาที่กดภูมิคุ้มกัน: เช่น ยาสเตียรอยด์ หรือยาเคมีบำบัด
วิธีป้องกันโรคงูสวัด
การป้องกันโรคงูสวัดสามารถทำได้หลายวิธี:1.การฉีดวัคซีน:
- วัคซีน Zoster: สำหรับคนสูงอายุมีวัคซีนที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดงูสวัดและลดความรุนแรงของโรคหากเกิดขึ้น การฉีดวัคซีน Zoster เช่น Shingrix หรือ Zostavax สามารถช่วยได้
- วัคซีนอีสุกอีใส: การฉีดวัคซีนอีสุกอีใสในเด็กสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัส Varicella-zoster ในระยะยาว
2.การรักษาสุขภาพ:
- การรักษาความเครียด: พยายามจัดการกับความเครียดผ่านการทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย
- การรับประทานอาหารที่ดี: อาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนเพื่อสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน
การรักษาโรคงูสวัด
การรักษาโรคงูสวัดมุ่งเน้นที่การบรรเทาอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อน:1.ยาต้านไวรัส:
- ยา Acyclovir, Valacyclovir หรือ Famciclovir: การใช้ยาต้านไวรัสเหล่านี้จะช่วยลดระยะเวลาของโรคและบรรเทาอาการเจ็บปวด
2.ยาบรรเทาอาการเจ็บปวด:
- ยาแก้ปวด: เช่น พาราเซตามอล หรือยาแก้ปวดที่มีสรรพคุณแรงขึ้น เช่น โคเดอีน
- ยาต้านการอักเสบ: เช่น ยาสเตียรอยด์ในบางกรณีที่แพทย์แนะนำ
3.การดูแลสุขภาพผิว:
- การรักษาความสะอาดของผิวหนัง: เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่สอง
- การใช้ครีมหรือเจลที่บรรเทาอาการ: เช่น ครีมที่มีสาร Capsaicin หรือ Lidocaine
4.การรักษาแทรกซ้อน:
Postherpetic Neuralgia: โรคแทรกซ้อนที่เป็นอาการปวดเรื้อรังหลังจากหายจากงูสวัด อาจต้องใช้ยาเฉพาะทางเพื่อบรรเทาอาการ
การวินิจฉัยโรคงูสวัด
แพทย์จะทำการวินิจฉัยโรคงูสวัดจาก:
- การตรวจร่างกาย: การตรวจดูผื่นและอาการเจ็บปวด
- การทดสอบทางห้องปฏิบัติการ: การตรวจเลือดหรือการเก็บตัวอย่างจากผื่นเพื่อทดสอบไวรัส