ผู้สูงอายุ คนแก่ คนสูงอายุ คนชรา ผู้ป่วยติดเตียง
  • ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
    • พาหาหมอ / รับยา
    • พาผู้สูงอายุเที่ยว
    • กายภาพบำบัดที่บ้าน
    • ประกันผู้สูงอายุ
    • วางแผนทางการเงินผู้สูงอายุ
  • ดูแลผู้ป่วย
  • ผู้สูงอายุ
  • บทความ
  • 9 วิธีรักษาโรค กระเพาะปัสสาวะอักเสบ รักษาด้วยตนเองได้หรือไม่
บทความ

9 วิธีรักษาโรค กระเพาะปัสสาวะอักเสบ รักษาด้วยตนเองได้หรือไม่

By Birth Intern   24 ก.พ. 2568

9 วิธีรักษาโรค กระเพาะปัสสาวะอักเสบ รักษาด้วยตนเองได้หรือไม่
โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis) เป็นการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้หญิง เนื่องจากท่อปัสสาวะสั้นกว่าผู้ชาย ทำให้แบคทีเรียเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะได้ง่ายขึ้น

อาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

  1. ปัสสาวะแสบขัด : รู้สึกแสบหรือเจ็บขณะปัสสาวะ
  2. ปัสสาวะบ่อย : ต้องการปัสสาวะบ่อยครั้ง แม้ว่าปัสสาวะจะน้อยหรือไม่มีมาก
  3. ปัสสาวะเป็นเลือด : อาจเห็นเลือดในปัสสาวะ หรือมีปัสสาวะที่ขุ่นและมีสีเข้ม
  4. ปวดท้องส่วนล่างหรืออุ้งเชิงกราน : รู้สึกปวดหรือหนักบริเวณท้องน้อยหรืออุ้งเชิงกราน
  5. ปัสสาวะมีกลิ่นแรง : อาจมีกลิ่นเหม็นแรงจากปัสสาวะ
  6. รู้สึกไม่สบายตัวหรือมีไข้ต่ำ : อาจมีอาการไข้ต่ำหรือรู้สึกไม่สบายตัวโดยรวม

อาการเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และหากมีอาการเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาต่อไป

9 วิธีรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

  1. รับประทานยาปฏิชีวนะตามคำแนะนำของแพทย์ : โดยทั่วไปจะใช้ยาปฏิชีวนะประมาณ 3-5 วัน หากอาการรุนแรงอาจต้องใช้ยานาน 7-10 วัน
  2. ดื่มน้ำมาก ๆ : ควรดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว เพื่อช่วยขับเชื้อโรคออกจากร่างกาย

  3. หลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะนาน ๆ : การกลั้นปัสสาวะอาจทำให้แบคทีเรียในปัสสาวะที่ค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะเจริญเติบโตได้ดี

  4. รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศ : ควรทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลังทุกครั้งหลังปัสสาวะและอุจจาระ เพื่อป้องกันการนำเชื้อโรคเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ

  5. ปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์ : การปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์ช่วยขับเชื้อโรคออกจากร่างกาย

  6. หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีหรือสบู่ที่รุนแรงบริเวณจุดซ่อนเร้น : การใช้สารเคมีหรือสบู่ที่รุนแรงอาจรบกวนสมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอดและท่อปัสสาวะ ทำให้แบคทีเรียก่อโรคออกฤทธิ์ทำให้เกิดการติดเชื้อได้

  7. รักษาร่างกายให้แข็งแรง : รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงความเครียด เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

  8. หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยแบบสอดหรือท่อช่วยปัสสาวะ : การใช้ผ้าอนามัยแบบสอดหรือท่อช่วยปัสสาวะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

  9. ปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติ : หากมีอาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะกะปริบกะปรอย หรือปวดบิดเกร็งช่องท้อง ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อรับคำแนะนำในการรักษาที่ทันท่วงที

การปฏิบัติตามวิธีเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบและช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

แหล่งที่มา
https://www.siphhospital.com/...m_source=chatgpt.com
https://www.exta.co.th/...m_source=chatgpt.com

บทความอื่นๆ

10 วิธีดูเเลผู้สูงอายุให้สุขภาพดีทั้งกายเเละใจ

บทความ

15 พ.ค. 2568

5 ผลไม้ช่วยบำรุงหัวใจ

บทความ

25 เม.ย. 2568

สิทธิประโยชน์ของผู้สูงอายุ

บทความ

21 เม.ย. 2568

บทความยอดนิยม

1

โทรศัพท์ เพื่อนคู่ใจหรือภัยร้ายผู้สูงอายุ ?

บทความ

03 ก.ค. 2567

2

อาการหนาวสั่นเฉียบพลันในผู้สูงอายุ: สัญญาณที่ควรทราบและแนวทางการรักษา

บทความ

02 ก.ค. 2567

3

คอนโดแบบไหนโดนใจป๊ะป๊า (ผู้สูงอายุ)

บทความ

04 ธ.ค. 2566

4

เที่ยวให้สนุก สุขใจวัยเกษียณ กับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับผู้สูงอายุ

บทความ

20 มิ.ย. 2567

5

[How To] วิธีเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่เหมาะสม คู่มือฉบับสมบูรณ์

บทความ

03 พ.ค. 2567

ข้อแนะนำการอ่านหนังสือสำหรับผู้สูงอายุ
การอ่านหนังสือเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์สำหรับผู้สูงอายุอย่างมาก ช่วยให้กระตุ้นสมอง เพิ่มความรู้ พัฒนาทักษะการสื่อสาร และผ่อนคลาย ดังนี้

การเลือกประเภทหนังสือ:
  • เลือกหนังสือที่ผู้สูงอายุสนใจ: เลือกหนังสือที่สอดคล้องกับความสนใจและประสบการณ์ของผู้สูงอายุ เช่น นิยาย หนังสือเกี่ยวกับสุขภาพ การท่องเที่ยว ฯลฯ
  • เลือกหนังสือที่เหมาะกับระดับการอ่าน: เลือกหนังสือที่มีตัวอักษรที่ชัดเจน ประโยคสั้นๆ และภาษาที่เข้าใจง่าย
  • เลือกหนังสือที่มีเนื้อหาเป็นประโยชน์: เลือกหนังสือที่มีเนื้อหาที่ช่วยให้ผู้สูงอายุเรียนรู้ พัฒนาทักษะ หรือผ่อนคลาย

การอ่านหนังสือ หรือ บทความมีประโยชน์มากมายต่อคนทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ดังนี้

1. กระตุ้นสมอง: การอ่านช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยให้สมองได้คิดและได้ทำงานตลอดเวลา การอ่านหนังสือสม่ำเสมอจะช่วยชะลอและป้องกันการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้
2. เพิ่มความรู้: การอ่านหนังสือช่วยให้เราได้รับความรู้จากเนื้อหาในหนังสือ แม้ว่าจะยังไม่ได้ใช้ในตอนนี้ แต่ก็ยังคงเป็นประโยชน์ในอนาคต
3. พัฒนาทักษะการสื่อสาร: การอ่านช่วยให้เราได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ และรูปแบบประโยคที่หลากหลาย ทำให้เราสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. ฝึกสมาธิ: การอ่านหนังสือช่วยให้เราจดจ่อกับเรื่องราวในหนังสือ ฝึกสมาธิและความตั้งใจ
5. ผ่อนคลาย: การอ่านหนังสือช่วยให้เราผ่อนคลาย ลดความเครียด และรู้สึกสงบ
6. เพิ่มความรู้รอบตัว: การอ่านหนังสือช่วยให้เรารู้เรื่องราวต่างๆ ทั่วไป สามารถพูดคุยกับผู้อื่นได้อย่างมั่นใจ
7. พัฒนาการคิดวิเคราะห์: การอ่านหนังสือช่วยให้เราฝึกคิดวิเคราะห์ เรียนรู้จากเรื่องราวในหนังสือ และนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตจริง
8. ฝึกจินตนาการ: การอ่านหนังสือช่วยให้เราฝึกจินตนาการ คิดภาพตามเรื่องราวในหนังสือ
9. ความบันเทิง: การอ่านหนังสือช่วยให้เราเพลิดเพลิน ผ่อนคลาย และสนุกกับการอ่าน
10. พัฒนาการอ่าน: การอ่านหนังสือช่วยให้ทักษะการอ่านของเราดีขึ้น เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น

การอ่านหนังสือเป็นกิจกรรมที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุทุกคน เพียงเลือกหนังสือที่เหมาะกับความสนใจและระดับการอ่าน ก็สามารถได้รับประโยชน์จากการอ่านอย่างเต็มที่

Popular Tags

blog/view.html บางขุนเทียน ห้วยขวาง ภาษีเจริญ พญาไท ธนบุรี บางกอกใหญ่ บางพลัด บางกอกน้อย คลองสาน

แนะนำ

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ใกล้ฉัน ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ กรุงเทพ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ นนทบุรี
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ปทุมธานี ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ สมุทรปราการ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ นครปฐม
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ สมุทรสาคร ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ภูเก็ต ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เชียงใหม่
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ โคราช ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ขอนแก่น ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เชียงราย
9 วิธีรักษาโรค กระเพาะปัสสาวะอักเสบ รักษาด้วยตนเองได้หรือไม่

Copyright © ผู้สูงอายุ คนแก่ คนสูงอายุ คนชรา ผู้ป่วยติดเตียง

  • เกี่ยวกับเรา
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นโยบายคุกกี้
  • ร้องเรียนเนื้อหาไม่เหมาะสม

แนะนำแจ้งเตือน แจ้งปัญหาการใช้งาน

ร่วมงานกับเรา

Messenger Line โทรศัพท์ 081-901-4440