ผู้สูงอายุ คนแก่ คนสูงอายุ คนชรา ผู้ป่วยติดเตียง
  • ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
    • พาหาหมอ / รับยา
    • พาผู้สูงอายุเที่ยว
    • กายภาพบำบัดที่บ้าน
    • ประกันผู้สูงอายุ
    • วางแผนทางการเงินผู้สูงอายุ
  • ดูแลผู้ป่วย
  • ผู้สูงอายุ
  • บทความ
  • รวมสารอาหารที่จำเป็นต่อผู้สูงอายุ
บทความ

รวมสารอาหารที่จำเป็นต่อผู้สูงอายุ

By Benz   01 ส.ค. 2567

รวมสารอาหารที่จำเป็นต่อผู้สูงอายุ

รวมสารอาหารที่จำเป็นต่อผู้สูงอายุ

การดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ การเลือกอาหารที่เหมาะสมสามารถช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพดีและเพิ่มคุณภาพชีวิต นี่คือข้อมูลที่ละเอียดเกี่ยวกับ สารอาหารที่จำเป็นต่อผู้สูงอายุ รวมถึงหน้าที่ของแต่ละสารอาหาร แหล่งอาหารที่ดี และเคล็ดลับในการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ


1. โปรตีน (Protein)

หน้าที่ของโปรตีน

สร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ: โปรตีนช่วยในการซ่อมแซมเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ
เสริมสร้างกล้ามเนื้อ: ช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อซึ่งมักลดลงเมื่อมีอายุมากขึ้น
สร้างเอนไซม์และฮอร์โมน: เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์และฮอร์โมนที่สำคัญ


แหล่งโปรตีนที่ดี

เนื้อสัตว์: ไก่, เนื้อวัว, เนื้อหมู
ปลาและอาหารทะเล: ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า, กุ้ง
ผลิตภัณฑ์จากนม: นม, โยเกิร์ต, ชีส
พืชโปรตีน: ถั่วเหลือง, ถั่วเขียว, เต้าหู้


เคล็ดลับในการรับประทาน

เลือกเนื้อสัตว์ที่ไม่มีไขมัน: เช่น เนื้อไก่ไม่ติดหนัง, เนื้อวัวสันใน
เพิ่มพืชโปรตีน: เช่น ถั่วต่างๆ, ถั่วเหลืองในอาหารประจำวัน


2. วิตามินดี (Vitamin D)

หน้าที่ของวิตามินดี

ช่วยดูดซึมแคลเซียม: สำคัญต่อการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน


แหล่งวิตามินดีที่ดี

แสงแดด: การได้รับแสงแดดตรงๆ เป็นแหล่งหลักของวิตามินดี
อาหาร: ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า, ไข่แดง
อาหารเสริม: วิตามินดีในรูปแบบของอาหารเสริม


เคล็ดลับในการรับประทาน

ออกไปข้างนอกเพื่อรับแสงแดด: รับแสงแดดอย่างน้อย 15-30 นาทีต่อวัน
เลือกปลาที่อุดมด้วยวิตามินดี: เช่น ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า


3. แคลเซียม (Calcium)

หน้าที่ของแคลเซียม

เสริมสร้างกระดูกและฟัน: ช่วยในการสร้างและรักษาความแข็งแรงของกระดูก
ช่วยในการทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท: มีบทบาทในการหดตัวของกล้ามเนื้อและการส่งสัญญาณประสาท


แหล่งแคลเซียมที่ดี

ผลิตภัณฑ์จากนม: นม, โยเกิร์ต, ชีส
ผักใบเขียว: คะน้า, ผักปวยเล้ง
อาหารที่เสริมแคลเซียม: นมถั่วเหลือง, น้ำส้มที่เสริมแคลเซียม


เคล็ดลับในการรับประทาน

รับประทานผลิตภัณฑ์จากนม: เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีแคลเซียมสูง
เพิ่มผักใบเขียวในมื้ออาหาร: เช่น การใส่ผักใบเขียวในซุปหรือสลัด


4. วิตามินบี12 (Vitamin B12)
หน้าที่ของวิตามินบี12

การผลิตเม็ดเลือดแดง: จำเป็นสำหรับการสร้างเม็ดเลือดแดงที่แข็งแรง
การทำงานของระบบประสาท: ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง


แหล่งวิตามินบี12 ที่ดี

ผลิตภัณฑ์จากสัตว์: เนื้อสัตว์, ปลา, ไข่, ผลิตภัณฑ์จากนม


เคล็ดลับในการรับประทาน

เลือกอาหารที่มีวิตามินบี12 สูง: เช่น เนื้อวัว, ปลาซาร์ดีน
พิจารณาการทานอาหารเสริม: สำหรับผู้ที่ไม่สามารถรับวิตามินบี12 จากอาหาร


5. ไฟเบอร์ (Fiber)

หน้าที่ของไฟเบอร์

ช่วยในการย่อยอาหาร: ช่วยป้องกันอาการท้องผูก
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาล


แหล่งไฟเบอร์ที่ดี

ผลไม้: แอปเปิ้ล, ลูกแพร์, เบอร์รี
ผัก: แครอท, บร็อคโคลี่
ธัญพืชเต็มเมล็ด: ข้าวกล้อง, ขนมปังโฮลวีต


เคล็ดลับในการรับประทาน

เพิ่มผักและผลไม้ในมื้ออาหาร: เช่น การทานสลัดหรือผลไม้เป็นของว่าง
เลือกธัญพืชเต็มเมล็ด: ใช้ข้าวกล้องแทนข้าวขาว


6. โอเมก้า-3 (Omega-3 Fatty Acids)

หน้าที่ของโอเมก้า-3

สนับสนุนสุขภาพหัวใจ: ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
ลดการอักเสบ: ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย


แหล่งโอเมก้า-3 ที่ดี

ปลา: ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า
พืช: เมล็ดเจีย, เมล็ดแฟลกซ์


เคล็ดลับในการรับประทาน

รับประทานปลาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง: เช่น การทานปลาแซลมอนหรือปลาทูน่า
เพิ่มเมล็ดเจียและเมล็ดแฟลกซ์ในอาหาร: เช่น การเพิ่มเมล็ดเจียลงในโยเกิร์ต


7. สังกะสี (Zinc)

หน้าที่ของสังกะสี

การทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน: ช่วยในการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน
การรักษาแผล: ช่วยในการสมานแผลและการซ่อมแซมเซลล์


แหล่งสังกะสีที่ดี

เนื้อสัตว์: เนื้อวัว, เนื้อหมู
อาหารทะเล: หอยนางรม, กุ้ง
ถั่วและเมล็ดพืช: ถั่วอัลมอนด์, เมล็ดฟักทอง


เคล็ดลับในการรับประทาน

เลือกเนื้อสัตว์ที่มีสังกะสีสูง: เช่น หอยนางรมหรือเนื้อวัว
เพิ่มเมล็ดพืชในอาหาร: เช่น การทานเมล็ดฟักทองเป็นของว่าง


8. วิตามินซี (Vitamin C)
หน้าที่ของวิตามินซี

การสร้างคอลลาเจน: ช่วยในการสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบของผิวหนังและเนื้อเยื่อต่างๆ
สนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน: ช่วยในการต่อสู้กับการติดเชื้อ


แหล่งวิตามินซีที่ดี

ผลไม้: ส้ม, สตรอเบอร์รี่, กีวี
ผัก: พริกหวาน, บร็อคโคลี่


เคล็ดลับในการรับประทาน

ทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง: เช่น ส้มและสตรอเบอร์รี่
เพิ่มผักที่มีวิตามินซีในมื้ออาหาร: เช่น พริกหวานในสลัด


9. โพแทสเซียม (Potassium)

หน้าที่ของโพแทสเซียม

การควบคุมสมดุลของน้ำและเกลือ: ช่วยรักษาความสมดุลของของเหลวในร่างกาย
การทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท: ช่วยในการหดตัวของกล้ามเนื้อและการส่งสัญญาณประสาท 


แหล่งโพแทสเซียมที่ดี

ผลไม้: กล้วย, อะโวคาโด
ผัก: มันฝรั่ง, ผักโขม


เคล็ดลับในการรับประทาน

ทานกล้วยเป็นของว่าง: กล้วยเป็นแหล่งโพแทสเซียมที่ดี
เพิ่มผักที่มีโพแทสเซียมในอาหาร: เช่น มันฝรั่งในมื้อหลัก

 

บทความอื่นๆ

10 วิธีดูเเลผู้สูงอายุให้สุขภาพดีทั้งกายเเละใจ

บทความ

15 พ.ค. 2568

5 ผลไม้ช่วยบำรุงหัวใจ

บทความ

25 เม.ย. 2568

สิทธิประโยชน์ของผู้สูงอายุ

บทความ

21 เม.ย. 2568

บทความยอดนิยม

1

โทรศัพท์ เพื่อนคู่ใจหรือภัยร้ายผู้สูงอายุ ?

บทความ

03 ก.ค. 2567

2

คอนโดแบบไหนโดนใจป๊ะป๊า (ผู้สูงอายุ)

บทความ

04 ธ.ค. 2566

3

[How To] วิธีเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่เหมาะสม คู่มือฉบับสมบูรณ์

บทความ

03 พ.ค. 2567

4

เที่ยวให้สนุก สุขใจวัยเกษียณ กับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับผู้สูงอายุ

บทความ

20 มิ.ย. 2567

5

อาการหนาวสั่นเฉียบพลันในผู้สูงอายุ: สัญญาณที่ควรทราบและแนวทางการรักษา

บทความ

02 ก.ค. 2567

ข้อแนะนำการอ่านหนังสือสำหรับผู้สูงอายุ
การอ่านหนังสือเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์สำหรับผู้สูงอายุอย่างมาก ช่วยให้กระตุ้นสมอง เพิ่มความรู้ พัฒนาทักษะการสื่อสาร และผ่อนคลาย ดังนี้

การเลือกประเภทหนังสือ:
  • เลือกหนังสือที่ผู้สูงอายุสนใจ: เลือกหนังสือที่สอดคล้องกับความสนใจและประสบการณ์ของผู้สูงอายุ เช่น นิยาย หนังสือเกี่ยวกับสุขภาพ การท่องเที่ยว ฯลฯ
  • เลือกหนังสือที่เหมาะกับระดับการอ่าน: เลือกหนังสือที่มีตัวอักษรที่ชัดเจน ประโยคสั้นๆ และภาษาที่เข้าใจง่าย
  • เลือกหนังสือที่มีเนื้อหาเป็นประโยชน์: เลือกหนังสือที่มีเนื้อหาที่ช่วยให้ผู้สูงอายุเรียนรู้ พัฒนาทักษะ หรือผ่อนคลาย

การอ่านหนังสือ หรือ บทความมีประโยชน์มากมายต่อคนทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ดังนี้

1. กระตุ้นสมอง: การอ่านช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยให้สมองได้คิดและได้ทำงานตลอดเวลา การอ่านหนังสือสม่ำเสมอจะช่วยชะลอและป้องกันการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้
2. เพิ่มความรู้: การอ่านหนังสือช่วยให้เราได้รับความรู้จากเนื้อหาในหนังสือ แม้ว่าจะยังไม่ได้ใช้ในตอนนี้ แต่ก็ยังคงเป็นประโยชน์ในอนาคต
3. พัฒนาทักษะการสื่อสาร: การอ่านช่วยให้เราได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ และรูปแบบประโยคที่หลากหลาย ทำให้เราสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. ฝึกสมาธิ: การอ่านหนังสือช่วยให้เราจดจ่อกับเรื่องราวในหนังสือ ฝึกสมาธิและความตั้งใจ
5. ผ่อนคลาย: การอ่านหนังสือช่วยให้เราผ่อนคลาย ลดความเครียด และรู้สึกสงบ
6. เพิ่มความรู้รอบตัว: การอ่านหนังสือช่วยให้เรารู้เรื่องราวต่างๆ ทั่วไป สามารถพูดคุยกับผู้อื่นได้อย่างมั่นใจ
7. พัฒนาการคิดวิเคราะห์: การอ่านหนังสือช่วยให้เราฝึกคิดวิเคราะห์ เรียนรู้จากเรื่องราวในหนังสือ และนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตจริง
8. ฝึกจินตนาการ: การอ่านหนังสือช่วยให้เราฝึกจินตนาการ คิดภาพตามเรื่องราวในหนังสือ
9. ความบันเทิง: การอ่านหนังสือช่วยให้เราเพลิดเพลิน ผ่อนคลาย และสนุกกับการอ่าน
10. พัฒนาการอ่าน: การอ่านหนังสือช่วยให้ทักษะการอ่านของเราดีขึ้น เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น

การอ่านหนังสือเป็นกิจกรรมที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุทุกคน เพียงเลือกหนังสือที่เหมาะกับความสนใจและระดับการอ่าน ก็สามารถได้รับประโยชน์จากการอ่านอย่างเต็มที่

Popular Tags

blog/view.html บางขุนเทียน ห้วยขวาง ภาษีเจริญ พญาไท ธนบุรี บางกอกใหญ่ บางพลัด บางกอกน้อย คลองสาน

แนะนำ

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ใกล้ฉัน ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ กรุงเทพ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ นนทบุรี
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ปทุมธานี ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ สมุทรปราการ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ นครปฐม
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ สมุทรสาคร ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ภูเก็ต ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เชียงใหม่
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ โคราช ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ขอนแก่น ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เชียงราย
รวมสารอาหารที่จำเป็นต่อผู้สูงอายุ

Copyright © ผู้สูงอายุ คนแก่ คนสูงอายุ คนชรา ผู้ป่วยติดเตียง

  • เกี่ยวกับเรา
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นโยบายคุกกี้
  • ร้องเรียนเนื้อหาไม่เหมาะสม

แนะนำแจ้งเตือน แจ้งปัญหาการใช้งาน

ร่วมงานกับเรา

Messenger Line โทรศัพท์ 081-901-4440